มนุษย์คือแหล่งรวมความรู้สึกลึกซึ้งจริง ๆ หลาย ๆ ครั้งจึงต้องการระบายออกมาให้ใครรับรู้ คนที่ใช้เวลาร่วมกันกับเรา คนที่อยู่เคียงข้างเรา หรือคนที่เข้าใจเราเสมอ ใช่แน่นอน อาจเป็นคนใกล้ชิดอย่างครอบครัว คู่รัก พี่น้อง อะไรทำนองนั้น หากแต่ในสังคมโลกแล้ว บทบาทเพื่อนสนิทมิตรสหายจึงเข้ามารัดรึงร่วมทางทุกคนในทุกช่วงเวลาของชีวิต สายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นที่ก่อเกิดเป็นคำว่า “มิตรภาพ” ทว่าเพื่อนในชีวิตของใครหลายคนก็ใช่ว่าจะสวยสดงดงาม มุมมองต่อเพื่อนที่เคลือบคลุมกำกวมจนไม่อาจหยั่งทราบได้ว่า คำว่า “มิตรภาพ” มันมีอยู่จริง ๆ หรือเปล่า
“เพื่อน” ครั้งแรกที่ทำความรู้จัก มักเริ่มขึ้นในช่วงวัยเรียนเพราะใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากที่สุด บังเกิดมิตรที่สร้าง “สายใยสัมพันธ์” มีเด็กคนหนึ่งที่ได้แบ่งปันความรู้สึกให้แก่กันตลอด กับอีกคนที่ไม่มีวันจะเข้าใจสายสัมพันธ์ที่ว่านี้ อันเป็นปมปัญหาของเรื่องราวทั้งหมดในชีวิตที่แก้ไม่ออก ถ้าจะกล่าวเป็นสุภาษิตว่า เพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตายหายาก หลายคนที่เคยชอกช้ำกับเพื่อน ก็คงไม่ได้หมายความในคำว่า “เพื่อนตาย” แต่หมายถึง “เพื่อนกิน” ต่างหาก เพราะแท้จริงแล้วนั้น ในสายตาของเขามีเพียงภาพจำอันเลวร้ายที่มีต่อเพื่อน
“เพื่อนกิน” คือคนที่เห็นเราเป็นทางผ่าน พร้อมจะเหยียบย่ำเราให้มิดจมดิน คบเราเพื่อหวังแต่ผลประโยชน์ส่วนตัวระยะสั้น ๆ แค่ได้สนองความต้องการและไม่ได้สนใจความรู้สึกเรา
“เพื่อนตาย” คือคนที่อยู่เคียงข้างเราในทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะทุกข์หรือสุข พร้อมยื่นมือเข้าช่วยและไม่ทอดทิ้งเราอย่างแน่นอน
ในเมื่อคนร้อยพ่อพันแม่มาอยู่ร่วมกัน ความต้องการก็แตกต่างกัน หากแต่ความปรารถนาที่ซุกซ่อนอยู่ในตัวบุคคลนั้น หาได้ถูกยอมรับต่อคนคนหนึ่ง หรือกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งได้ทุกครั้งคราว ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับผู้ที่ไม่ถูกเป็นที่ยอมรับของพ้องเพื่อน ทำให้ทรรศนะของเขาที่มีต่อเพื่อนมีนิยามเฉพาะด้านเดียว ก่อกลายเป็น “กำแพง” ปิดกั้นความรู้สึกที่มี เก็บงำไว้โดดเดี่ยวอย่างอัดอั้นตันใจ
หากสายสัมพันธ์เปรียบเสมือน “ด้ายม้วนหนึ่ง” ในช่วงเวลาของชีวิต ด้ายที่เคยพันผูกเป็นเกลียวแน่นครานั้น ที่เมื่อเวลาล่วงไปแล้ว ด้ายเส้นนั้นค่อย ๆ คลี่คลายออกมาจากแกนกลาง สายสัมพันธ์ก็จะยิ่งห่างเหินจากแก่นแท้ความรู้สึกดี ๆ มากขึ้น ผู้คนมากมายต่างอยากยื้อเวลาเพื่อซึมซับช่วงที่มีค่าของคำว่าเพื่อนให้ได้มากที่สุด ขณะที่คนบางคนรอภาวนาอยากให้มันพ้นผ่านไปโดยเร็ว ปล่อยให้คำว่าเพื่อนเลือนรางอย่างลำพัง
ถึงกระนั้นอารมณ์ความรู้สึกที่มีอยู่อย่างท่วมท้น ถ้ามนุษย์เป็นสัตว์สังคมจริง ย่อมจะดีกว่าหากได้สำแดงออกมาและมีใครสักคนคอยรับฟังยามปลดปล่อยไป เรื่อย ๆ เพราะฉะนั้นลองเปิดใจสักครั้ง เพื่อเชื่อมต่อสายสัมพันธ์ของเพื่อน คนที่มองเราด้วยความห่วงใย คนที่เห็นเราคือเพื่อนเช่นกัน เราไม่จำเป็นต้องเป็นที่รักและเคารพของทุกคน เพียงครั้งหนึ่งได้รับรู้ว่าเพื่อนที่อยู่ด้วยกันแล้วสบายใจที่สุด แม้เขาคงไม่ใช่คนที่ดีที่สุด แต่เขาอาจเป็นสายสัมพันธ์สุดท้ายที่เราโหยหาและควรรักษาให้ได้นานที่สุด
แม้ว่าการส่งทอดความรู้สึกมันเป็นเรื่องยาก แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่การร้อยเรียงถ้อยคำอันแสนโรยราเพื่อถ่ายเทความคิดส่งไปถึงใครคนหนึ่งให้เข้าใจเท่านั้น ทั้งทุกข์ สุข โกรธ เหงา คงไม่มีใครมารับฟังเราได้ทุกเรื่อง แต่จะมีสักกี่คนที่เต็มใจให้เวลารู้จักกันเพื่อถักทอสายใยสัมพันธ์ คนที่เข้าใจสื่อถึงกันได้ และวันนั้นเราจะสัมผัสแก่นแท้ของคำว่า “เพื่อนที่ดีที่สุด” จากสายสัมพันธ์นั้น แต่ก็ใช่ว่าเราจะเห็นเพื่อนผู้ฟังเป็นเพียงสนามอารมณ์ให้เราระบายได้ด้วยถ้อยคำบริภาษ
ดังนั้น “ความเห็นอกเห็นใจ” จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ช่วยประคองความสัมพันธ์เอาไว้ และให้เราคิดเสมอว่าเอาใจเขามาใส่ใจเรา บางครั้งเราก็ควรเปลี่ยนสถานะตนเองจากผู้พูดเป็นผู้ฟัง เพราะก่อนจะได้สายสัมพันธ์ที่ว่ามา สุดท้ายคำว่าเพื่อนมันคือการประนีประนอม ความพินอบพิเทา การยอมรับซึ่งกันและกัน บางครั้งเราไม่ต้องพยายามตามหาเพื่อนที่ดีที่สุด แต่เราควรเริ่มต้นจากตนเองก่อน หากเราเป็นผู้ฟังที่ดีได้ เราก็เป็นเพื่อนที่ดีได้เช่นกัน เมื่อเราได้ถือโอกาสกุมสายสัมพันธ์นั้นแล้ว ก็จงสานสายสัมพันธ์นั้นไว้ ให้ได้รู้ซึ้งถึงกาลเวลาดี ๆ ด้วยกัน จากความทรงจำของเด็กคนหนึ่งที่มีเยื่อใยต่อกัน จนกลายเป็นไม้ใกล้ฝั่งมองดูตะวันเป็นประสบการณ์อันโชกโชนของสายสัมพันธ์
โดย นายนัทวุฒิ หวังผล