ปรับขนาดตัวอักษร
โหมดการเข้าถึงสำหรับผู้พิการ
ภาษา
ข่าวประชาสัมพันธ์
จำนวนข่าวประชาสัมพันธ์ ทั้งหมด 24 รายการ
มนุษย์คือแหล่งรวมความรู้สึกลึกซึ้งจริง ๆ หลาย ๆ ครั้งจึงต้องการระบายออกมาให้ใครรับรู้ คนที่ใช้เวลาร่วมกันกับเรา คนที่อยู่เคียงข้างเรา หรือคนที่เข้าใจเราเสมอ ใช่แน่นอน อาจเป็นคนใกล้ชิดอย่างครอบครัว คู่รัก พี่น้อง อะไรทำนองนั้น หากแต่ในสังคมโลกแล้ว บทบาทเพื่อนสนิทมิตรสหายจึงเข้ามารัดรึงร่วมทางทุกคนในทุกช่วงเวลาของชีวิต สายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นที่ก่อเกิดเป็นคำว่า “มิตรภาพ” ทว่าเพื่อนในชีวิตของใครหลายคนก็ใช่ว่าจะสวยสดงดงาม มุมมองต่อเพื่อนที่เคลือบคลุมกำกวมจนไม่อาจหยั่งทราบได้ว่า คำว่า “มิตรภาพ” มันมีอยู่จริง ๆ หรือเปล่า “เพื่อน” ครั้งแรกที่ทำความรู้จัก มักเริ่มขึ้นในช่วงวัยเรียนเพราะใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากที่สุด บังเกิดมิตรที่สร้าง “สายใยสัมพันธ์” มีเด็กคนหนึ่งที่ได้แบ่งปันความรู้สึกให้แก่กันตลอด กับอีกคนที่ไม่มีวันจะเข้าใจสายสัมพันธ์ที่ว่านี้ อันเป็นปมปัญหาของเรื่องราวทั้งหมดในชีวิตที่แก้ไม่ออก ถ้าจะกล่าวเป็นสุภาษิตว่า เพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตายหายาก หลายคนที่เคยชอกช้ำกับเพื่อน ก็คงไม่ได้หมายความในคำว่า “เพื่อนตาย” แต่หมายถึง “เพื่อนกิน” ต่างหาก เพราะแท้จริงแล้วนั้น ในสายตาของเขามีเพียงภาพจำอันเลวร้ายที่มีต่อเพื่อน “เพื่อนกิน” คือคนที่เห็นเราเป็นทางผ่าน พร้อมจะเหยียบย่ำเราให้มิดจมดิน คบเราเพื่อหวังแต่ผลประโยชน์ส่วนตัวระยะสั้น ๆ แค่ได้สนองความต้องการและไม่ได้สนใจความรู้สึกเรา “เพื่อนตาย” คือคนที่อยู่เคียงข้างเราในทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะทุกข์หรือสุข พร้อมยื่นมือเข้าช่วยและไม่ทอดทิ้งเราอย่างแน่นอน ในเมื่อคนร้อยพ่อพันแม่มาอยู่ร่วมกัน ความต้องการก็แตกต่างกัน หากแต่ความปรารถนาที่ซุกซ่อนอยู่ในตัวบุคคลนั้น หาได้ถูกยอมรับต่อคนคนหนึ่ง หรือกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งได้ทุกครั้งคราว  ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับผู้ที่ไม่ถูกเป็นที่ยอมรับของพ้องเพื่อน ทำให้ทรรศนะของเขาที่มีต่อเพื่อนมีนิยามเฉพาะด้านเดียว ก่อกลายเป็น “กำแพง” ปิดกั้นความรู้สึกที่มี เก็บงำไว้โดดเดี่ยวอย่างอัดอั้นตันใจ หากสายสัมพันธ์เปรียบเสมือน “ด้ายม้วนหนึ่ง” ในช่วงเวลาของชีวิต ด้ายที่เคยพันผูกเป็นเกลียวแน่นครานั้น ที่เมื่อเวลาล่วงไปแล้ว ด้ายเส้นนั้นค่อย ๆ คลี่คลายออกมาจากแกนกลาง สายสัมพันธ์ก็จะยิ่งห่างเหินจากแก่นแท้ความรู้สึกดี ๆ มากขึ้น ผู้คนมากมายต่างอยากยื้อเวลาเพื่อซึมซับช่วงที่มีค่าของคำว่าเพื่อนให้ได้มากที่สุด ขณะที่คนบางคนรอภาวนาอยากให้มันพ้นผ่านไปโดยเร็ว ปล่อยให้คำว่าเพื่อนเลือนรางอย่างลำพัง ถึงกระนั้นอารมณ์ความรู้สึกที่มีอยู่อย่างท่วมท้น ถ้ามนุษย์เป็นสัตว์สังคมจริง ย่อมจะดีกว่าหากได้สำแดงออกมาและมีใครสักคนคอยรับฟังยามปลดปล่อยไป เรื่อย ๆ เพราะฉะนั้นลองเปิดใจสักครั้ง  เพื่อเชื่อมต่อสายสัมพันธ์ของเพื่อน คนที่มองเราด้วยความห่วงใย คนที่เห็นเราคือเพื่อนเช่นกัน  เราไม่จำเป็นต้องเป็นที่รักและเคารพของทุกคน เพียงครั้งหนึ่งได้รับรู้ว่าเพื่อนที่อยู่ด้วยกันแล้วสบายใจที่สุด แม้เขาคงไม่ใช่คนที่ดีที่สุด แต่เขาอาจเป็นสายสัมพันธ์สุดท้ายที่เราโหยหาและควรรักษาให้ได้นานที่สุด แม้ว่าการส่งทอดความรู้สึกมันเป็นเรื่องยาก แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่การร้อยเรียงถ้อยคำอันแสนโรยราเพื่อถ่ายเทความคิดส่งไปถึงใครคนหนึ่งให้เข้าใจเท่านั้น ทั้งทุกข์ สุข โกรธ เหงา คงไม่มีใครมารับฟังเราได้ทุกเรื่อง แต่จะมีสักกี่คนที่เต็มใจให้เวลารู้จักกันเพื่อถักทอสายใยสัมพันธ์ คนที่เข้าใจสื่อถึงกันได้ และวันนั้นเราจะสัมผัสแก่นแท้ของคำว่า “เพื่อนที่ดีที่สุด” จากสายสัมพันธ์นั้น แต่ก็ใช่ว่าเราจะเห็นเพื่อนผู้ฟังเป็นเพียงสนามอารมณ์ให้เราระบายได้ด้วยถ้อยคำบริภาษ  ดังนั้น “ความเห็นอกเห็นใจ” จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ช่วยประคองความสัมพันธ์เอาไว้ และให้เราคิดเสมอว่าเอาใจเขามาใส่ใจเรา บางครั้งเราก็ควรเปลี่ยนสถานะตนเองจากผู้พูดเป็นผู้ฟัง เพราะก่อนจะได้สายสัมพันธ์ที่ว่ามา สุดท้ายคำว่าเพื่อนมันคือการประนีประนอม ความพินอบพิเทา การยอมรับซึ่งกันและกัน บางครั้งเราไม่ต้องพยายามตามหาเพื่อนที่ดีที่สุด แต่เราควรเริ่มต้นจากตนเองก่อน หากเราเป็นผู้ฟังที่ดีได้ เราก็เป็นเพื่อนที่ดีได้เช่นกัน เมื่อเราได้ถือโอกาสกุมสายสัมพันธ์นั้นแล้ว ก็จงสานสายสัมพันธ์นั้นไว้ ให้ได้รู้ซึ้งถึงกาลเวลาดี ๆ ด้วยกัน จากความทรงจำของเด็กคนหนึ่งที่มีเยื่อใยต่อกัน จนกลายเป็นไม้ใกล้ฝั่งมองดูตะวันเป็นประสบการณ์อันโชกโชนของสายสัมพันธ์       โดย นายนัทวุฒิ หวังผล
1 เมษายน 2568
เมื่อพูดถึงฮีโร่หลายหลายคนอาจนึกถึงผู้ที่มีพลังวิเศษหรือปราบเหล่าร้ายได้ แต่สำหรับเด็กนักเรียน   ฮีโร่ที่เก่งที่สุดก็คงไม่พ้น “ครู”  ครูคือผู้ที่สั่งสอนและถ่ายทอดวิชาความรู้แก่ศิษย์ ขัดเกลาเด็กนักเรียนตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่เพื่อให้เติบโตเป็นพลเมืองที่ดีของสังคม คอยประคับประคองเด็กนักเรียน คอยแก้ปัญหาให้ก้าวข้ามผ่านบททดสอบและถอดบทเรียนให้ได้มากที่สุดเพื่อให้นักเรียนได้รับข้อเรียนรู้และนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน การเป็นครูไม่ต่างจากการเป็นฮีโร่ที่เราเคยได้ยินเลย คุณครูมีอาวุธที่แข็งแกร่งคือตำราความรู้วิชาการ พร้อมหัวใจที่กล้าแกร่ง ที่พร้อมจะถ่ายทอดความรู้ให้แก่นักเรียนอยู่เสมอ แม้กระทั่งการนำความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ในห้องเรียนปรับใช้ในชีวิตประจำวันครูก็ไม่ปล่อยผ่าน เป็นคนที่มีความคิดที่ว่องไว สามารถหาแนวทางการแก้ไขปัญหาได้เสมอ คุณครูมีหัวใจที่พร้อมจะเยียวยานักเรียนเมื่อนักเรียนต้องการคำปรึกษา ให้คำแนะนำที่ดีในการใช้ชีวิต ปลอบโปลมนักเรียนอย่างอบอุ่น ปฏิบัติหน้าที่อย่างหนักหน่วงด้วยเต็มพลังความสามารถ มีความอดทนสูงมากและพร้อมสั่งสอนศิษย์อยู่ตลอดช่วง ยังจำได้ดีวันที่ปัญหาเข้ามาอย่างถาโถม มีอุทกภัยหนักเข้ามาปกคลุมพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ทำให้น้ำขึ้นเร็วมากและขนย้ายทรัพย์สินของโรงเรียนไว้ไม่ได้ทั้งหมด ทำให้โรงเรียนศาสนศึกษา อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี เป็นอีกหนึ่งโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้และเกิดความเสียหายอย่างมหาศาลจนประเมินมูลค่าไม่ได้ แต่ไม่นานเมื่อน้ำลด สิ่งแรกที่คุณครูปฏิบัติอย่างเร่งรีบคือพากันมาช่วยเหลือทำความสะอาดปัดกวาดเช็ดถู ช่วยกันล้างเก้าอี้ โต๊ะ สิ่งของต่าง ๆ รวมถึงห้องเรียนที่เสียหาย เพื่อเตรียมห้องเรียน และจัดการเรียนการสอนอย่างรวดเร็วที่สุดด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ฟื้นฟูห้องเรียนให้กลับมาจัดการเรียนการสอนได้ตามปกติในระยะเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ เป็นเหตุการณ์ที่ครูและนักเรียนทุกคนต่างพร้อมใจกันมาช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ซึ่งเป็นภาพบรรยากาศที่ทำให้รู้ว่าครูเต็มที่กันมากจริง ๆ เพื่อให้นักเรียนได้มีการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง จากอุทกภัยในครั้งนี้ทำให้รู้ซึ้งว่าอาชีพครูไม่เพียงแต่เปล่งเสียงสอนในห้องเรียนเท่านั้น แต่ยังคอยเป็นผู้ที่พร้อมประคับประคองและช่วยลูกศิษย์ได้ตลอดเพื่อรอดฝั่ง ที่สำคัญครูเป็นผู้ที่มอบแรงบันดาลใจให้กับนักเรียนในการทำสิ่งดี ๆ ในชีวิต ครูสามารถเป็นต้นแบบที่ดีให้กับนักเรียนในการแสดงออกถึงความรับผิดชอบ ความซื่อสัตย์ และความเอื้ออาทรต่อผู้อื่น เมื่อมีปัญหาหรืออุปสรรคในชีวิต นักเรียนสามารถเรียนรู้จากครูว่าไม่ควรยอมแพ้และต้องพยายามทำในสิ่งที่ดีที่สุด ในขณะเดียวกันคุณครูที่ดีมากขนาดนี้ก็ต้องการลูกศิษย์ที่ดีเช่นกัน เพราะเป้าหมายเดียวของคุณครู คือการสอนให้เด็กเติบโตและพัฒนาเป็นบุคคลที่ดีต่อสังคมในอนาคต นักเรียนอย่างพวกเราเองควรตอบแทนการทำงานที่หนักหน่วงของคณะครู ด้วยกันเป็นเด็กนักเรียนที่กตัญญูและเป็นเด็กดี เพียงเท่านี้คณะครูก็ภูมิใจต่อลูกศิษย์อย่างมหาศาล ดังนั้น ครูจึงไม่ต่างจากฮีโร่ในชีวิตจริงของนักเรียนเลย เพราะครูมีหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ในการช่วยเหลือและส่งเสริมการพัฒนาให้กับนักเรียนทั้งในด้านเรียนรู้ ด้านจิตใจ รวมถึงการอยู่ร่วมกันในสังคม และอีกหลาย ๆ ด้าน ซึ่งทำให้นักเรียนสามารถเติบโตขึ้นเป็นบุคคลดีที่มีคุณค่าต่อสังคมในอนาคต และนี่คือเหตุผลว่า ครูคือฮีโร่ของนักเรียน   โดย นางสาวอิกฆ์ลาส บาโง  
1 เมษายน 2568
ในชีวิตคนเรา คงไม่มีใครไม่เคยได้รับการสอนจากครู ครูคือผู้ที่ทำหน้าที่มากกว่าการถ่ายทอดความรู้ภายในห้องเรียน แต่ยังคอยชี้แนะแนวทางชีวิต สร้างแรงบันดาลใจ เป็นแรงผลักดัน และทำให้เราเข้าใจความหมายของคำว่า “การเรียนรู้” อีกทั้งยังเข้าใจความผิดพลาดที่เกิดขึ้น แม้ในชีวิตของฉันจะได้เจอกับครูหลายท่าน แต่มีครูคนหนึ่งที่ฉันยกย่องและถือว่าเป็นครูในดวงใจมาตลอด ครูคนนั้นคือ คุณครูฟ้าใส        คุณครูฟ้าใส เป็นครูสอนวิชาคณิตศาสตร์ ซึ่งเป็นวิชาที่ฉันเคยคิดว่าเข้าใจยากที่สุดมากกว่าวิชาอื่น ๆ ซึ่งครูฟ้าใส ไม่ใช่เพียงแค่ครูที่สอนตามตำรา แต่ครูใช้วิธีการสอนที่ทำให้คณิตศาสตร์กลายเป็นสิ่งที่สนุกและเข้าใจง่าย ครูมักจะเปรียบเทียบโจทย์คณิตศาสตร์กับสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน เช่น การซื้อของในตลาด หรือ การวางแผนงบประมาณ ครูทำให้ฉันรู้สึกว่าคณิตศาสตร์ไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่มันคือสิ่งที่เชื่อมโยงกับชีวิตเราในทุกๆด้าน สิ่งที่ฉันประทับใจมากที่สุดคือ ความใส่ใจของครูฟ้าใสที่มีให้กับนักเรียนทุกคน ครูไม่เคยละเลยนักเรียนคนไหนเลยแม้แต่คนที่เรียนช้าหรือมีปัญหา ครูจะคอยให้กำลังใจและหาวิธีช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ครั้งหนึ่งฉันเคยทำคะแนนสอบได้ไม่ดี ครูฟ้าใสไม่ได้ตำหนิฉันแต่กลับเรียกฉันไปคุยส่วนตัว ครูบอกว่า “คะแนนไม่ใช่ตัวตัดสินความสำเร็จในชีวิต แต่สิ่งที่สำคัญคือ เธอจะได้เรียนรู้อะไรจากความผิดพลาดครั้งนี้” คำพูดของครูทำให้ฉันรู้สึกมีกำลังใจที่จะพัฒนาตัวเอง และไม่ยอมแพ้กับอุปสรรคอีกต่อไป ครูฟ้าใสยังเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องความรับผิดชอบ และความทุ่มเท ครูมักจะเตรียมบทเรียนล่วงหน้าอย่างละเอียด และมักหาวิธีใหม่ ๆ มาใช้ในการสอนเพื่อให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหามากขึ้น นอกจากการเป็นครูในห้องเรียน ครูฟ้าใสยังเป็นเหมือนที่ปรึกษาและเพื่อนที่คอยรับฟังปัญหาของนักเรียนเสมอ ไม่ว่าฉันหรือเพื่อน ๆจะมีปัญหาอะไรก็ตาม ครูฟ้าใสก็พร้อมให้คำแนะนำด้วยความเข้าใจเสมอ        สิ่งที่ฉันได้เรียนรู้จากครูฟ้าใส ไม่ได้มีแค่ความรู้ในห้องเรียนเพียงอย่างเดียว แต่ครูยังสอนให้ฉันเข้าใจคุณค่าของการมีความพยายามและความอดทน ครูชอบพูดเสมอว่า “ความล้มเหลวไม่ใช่จุดจบแต่มันคือโอกาสในการเริ่มต้นใหม่” คำพูดนี้มันยังคงติดอยู่ในใจของฉันจนถึงทุกวันนี้ ทำให้ฉันอยากพัฒนาตัวเองเรื่อย ๆ ทุกบทเรียนที่ครูมอบให้ไม่ใช่เพียงแค่ช่วยให้ฉันเติมโตในด้านความรู้เท่านั้น แต่ทำให้ฉันได้เรียนรู้ว่าการก้าวข้ามความยากลำบากคือหนทางสู่ความสำเร็จและการเชื่อมั่นในตนเองคือ หัวใจสำคัญของการเดินทางสู่อนาคต   โดย นางสาวสุชาดา พรมภูงา  
1 เมษายน 2568
เมื่อเราพูดถึงโรงเรียนในฝัน หลายคนมีภาพในหัวที่แตกต่างกันออกไป โรงเรียนที่หรูหรา โรงเรียนที่ใหญ่โต โรงเรียนที่มีค่าเทอมแพงหรือทันสมัย แต่โรงเรียนในฝันของฉันไม่ใช่แบบที่ได้กล่าวไว้ สำหรับฉันโรงเรียนในฝันไม่จำเป็นต้องหรูหรา ขอแค่เพียงเป็นพื้นที่ที่มีความสุข ความอบอุ่น ความน่ารักของทุกคน และเป็นพื้นที่ที่นักเรียนทุกคนสามารถหาความรู้ได้อย่างที่ตัวเองต้องการ พัฒนาตัวเองได้อย่างเต็มที่ โรงเรียนในฝันของฉัน คือโรงเรียนที่ให้ความสำคัญกับเด็กนักเรียนเป็นหลัก ทุกคนได้รับการยอมรับในตัวตนที่แท้จริงของทุกคนได้ ครูที่ไม่ใช่แค่ถ่ายทอดความรู้ แต่ยังมีอีกหนึ่งบทบาทคือ เป็นที่ปรึกษาเป็นเพื่อนให้กับนักเรียนได้ นักเรียนจะได้ไม่รู้สึกถึงความกดดันจากการเรียน และมีความกระตือรือร้นในการค้นหาความรู้ได้ด้วยตัวเอง โรงเรียนในฝันไม่ใช่เป็นแค่สถานที่สำหรับการเรียน แต่ยังเป็นพื้นที่สำหรับสร้างความสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียน รวมถึงระหว่างเพื่อนๆด้วยกัน และต้องเป็นสถานที่ปลอดภัยไม่ใช่แค่ด้านของร่างกาย แต่ยังรวมถึงความรู้สึกในจิตใจเด็กอีกด้วย สิ่งที่ขาดไม่ได้อย่างมากในโรงเรียนที่ฉันฝันคือ พื้นที่สีเขียว สนามหญ้ากว้างๆ ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ๆ ให้ร่มเงา และฉันเชื่อว่าธรรมชาติจะสามารถช่วยให้บรรยากาศในโรงเรียนดีมากขึ้น ห้องสมุดที่มีแอร์เย็นๆ โรงอาหารที่มีข้าวขายเยอะๆ ตู้ล็อคเกอร์ที่สามารถให้นักเรียนได้เก็บหนังสือ นักเรียนจะได้ไม่ต้องแบกมาหรือแบกกลับ และพื้นที่จอดรถในโรงเรียน ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักเรียน นอกจากนี้โรงเรียนในฝันของฉันควรให้ความสำคัญกับกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิต ไม่ใช่แค่เรื่องวิชาการเท่านั้น นักเรียนควรได้เรียนรู้วิธีการทำงานกันเป็นทีม การแก้ไขการพัฒนาทักษะทางด้านอารมณ์และสังคม กิจกรรมที่ควรจะมีเพิ่มเติมในคลาสเรียนของฉัน คือ กิจกรรมเสริมหลักสูตร เช่น กีฬา ดนตรี การทำอาหาร การปลูกพืชผักสวนครัวหรือการจัดสวน หรือการป้องกันตัวจากการยิงกราดภายในโรงเรียน ควรจะมีอยู่ในหลักการสอนจริงๆ สิ่งสำคัญอีกอย่างคือส่งเสริมความเท่าเทียมกันในโรงเรียน นักเรียนทุกคนควรมีโอกาสในการแสดงความสามารถและความคิดเห็นของตนเองได้ ไม่ว่าจะมาในพื้นที่ไหน ๆ หรือสถานะใด ก็ควรได้แสดงความสามารถให้ทุกคนได้เห็น โรงเรียนในฝันไม่ใช่สถานที่สำหรับการเรียนรู้เพียงอย่างเดียว แต่เป็นสถานที่ที่ช่วยปลูกฝังจิตใจเด็กและเตรียมนักเรียนให้พร้อม สำหรับชีวิตในอนาคต โรงเรียนที่ดีไม่ใช่แค่สร้างคนเก่ง แต่ต้องสร้างคนดีที่พร้อมเป็นส่วนหนึ่งของคนที่มีคุณภาพ เมื่อฉันหลับตานึกถึงโรงเรียนในฝันมันไม่ได้เป็นเพียงภาพในจินตนาการ แต่เป็นแรงบันดาลใจที่ฉันหวังว่าจะได้เห็นโรงเรียนแบบนี้เกิดขึ้นจริงในสังคมของเรา   โดย นางสาวลาตีฟะห์ นามสกุล อุเซ็ง  
1 เมษายน 2568
เพื่อนเปรียบเสมือนความรัก  ที่ให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน  เป็นสิ่งที่แสดงออกมาจากความรู้สึกที่อยู่ข้างใน  การเป็นเพื่อนนอกจากให้เรามีความสุขด้วยกันแล้ว  ยังสร้างหลายสิ่งหลายด้วยกันอีกด้วย  ความทรงจำดีๆสร้างมิตรภาพความอบอุ่นทางกายและใจ  เพื่อนเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีบทบาทและความสำคัญกับการใช้ชีวิตของเรา  แม้เราจะอยู่ส่วนไหนก็ตามบนโลกใบนี้  เพื่อนก็จะเป็นอีกหนึ่งแรงดึงความคิดของเราไปในทางที่ดีและไม่ดี  เราเองจึงต้องตระหนักรู้และตระหนักคิดในการคบเพื่อน  ทางที่ดีที่สุดควรคบเพื่อนที่เป็นคนดีที่สามารถนำพาเราไปในทางที่ถูกต้องและมีความสุขได้อย่างสวยงาม  เพื่อนที่ดีมักจะสร้างความรักที่เป็นการกระทำ  ทั้งให้คำปรึกษา  ช่วยสอนการบ้าน  ที่บ่งบอกถึงความรักที่สร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน  เพื่อนเป็นกิจวัตรประจำวันที่มีการใช้ชีวิตเหมือนกันกับเรา  ทั้งอยู่ในโรงเรียน  สวมชุดเหมือนกัน  เล่นด้วยกัน  บางวันเพื่อนไม่มาเรียนก็ช่วยบอกงานที่ยังค้าง  ช่วยสอนการบ้าน  ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน  เมื่อเวลาผ่านไปความทรงจำที่มีต่อเพื่อนจะไม่จางลง  ถ้าเรากับเพื่อนยังคงสร้างความรักความสามัคคีต่อกันแบบนี้  ดังนั้นเราจงรักษาเพื่อนแบบนี้ไว้ให้ดี  โชคดีแค่ไหนที่มีเพื่อนคอยสนับสนุน  สิ่งที่ไม่ดีเพื่อนก็ห้าม  ทำให้เรานั้นยิ่งอยากจะให้ความรักความเข้าใจของเรากับเพื่อนนั้นมั่นคงตลอดไป  บางครั้งเพื่อนจะทำให้เราไม่สบายใจเสียความรู้สึกต่างๆนาๆจากคำพูดและการกระทำ  แต่นั่นคือเป็นคำตอบให้เราคิดและรู้ว่า  เพื่อนที่ดีกว่านี้ก็มี เราควรที่จะไปคบเพื่อนที่ให้เกียรติกับเรา  ใส่ใจความรู้สึกเรา  ชีวิตเราจะคุ้มค่าและน่าอิจฉาที่มีเพื่อนทีดีและพึ่งพากันได้  เพื่อนก็จะเป็นอีกกุญแจสำคัญที่จะสนับสนุน  ผลักดันให้เราไปถึงจุดสูงสุดในชีวิตคือการประสบผลสำเร็จในชีวิต  ในวันที่เราประสบผลสำเร็จเพื่อนไม่ต้องการเงินเดือนที่เราได้  แต่เพื่อนกลับภูมิใจในตัวเราและยินดีกับเราในวันที่เรานั้นประสบผลสำเร็จ  ดังนั้นการเลือกเพื่อนจึงสำคัญมากๆ  ถ้าคบเพื่อนที่ดีเชื่อว่าชีวิตเราและความทรงจำระหว่างเรากับเพื่อนนั้น  จะมีแต่รอยยิ้มและสิ่งที่ดีอย่างแน่นอน  ความรักจากเพื่อนเป็นสิ่งสวยงามที่แสดงออกได้ ๒ แบบ  สิ่งแรกที่แสดงออกจากการกระทำ  การแบ่งปัน  การส่งรอยยิ้ม  และอีกแบบหนึ่งความรักที่เป็นการพูดออกมาจากความรู้สึกทั้งพูดปลอดใจ  ให้คำปรึกษาที่ดี  เป็นการแสดงความรักที่มีเสียง  จริงๆแล้วความรักไม่ได้ทำให้คนตาบอด  แต่ความรักนี้แหละจะทำให้รากฐานการใช้ชีวิตของเราให้มีความสุข  ทั้งกายและใจ  แต่คนที่ไม่มีความรักต่างหากที่ตาบอดและใจบอด  สุดท้ายความรักจากเพื่อนอยากจะเป็นตัวอย่างและตัวแทนที่แสดงออกมาจากหัวใจคือความรักจากเพื่อนที่ดี  มีแต่ความทรงจำรอยยิ้มมิตรภาพ  การให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน  แต่หวังให้ทุกคนใช้ชีวิตพร้อมกับความสุขที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก  ความรักจากเพื่อนจะเกิดได้กับการกระทำเสมอ  ดั่งคำคมที่ว่า “เพื่อนก็เปรียบเสมือนน้ำเปล่า  ถึงไม่มีรสชาติแต่ชีวิตก็ขาดไม่ได้”       โดย นายบูคอรี  ซอและ
1 เมษายน 2568
ตลอดช่วงเวลาในชีวิตเราอาจได้รู้จักพบเจอกับผู้คนมากมาย แต่ใช่ว่าคนทุกคนจะสามารถเป็นเพื่อนของเราได้ และก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถเป็นเพื่อนสนิทของเราได้ บางคนอาจจะมีเพื่อนเป็นร้อย เป็นพัน แต่จะมีสักกี่คนที่เข้าใจและคุยกับเราได้ทุกเรื่อง ผมมีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง พวกเราเคยรู้จักกันมาก่อนตอนสมัยเรียนประถม เจอกันตอนเล่นกีฬาหลังเลิกเรียนคุยกัน แต่ไม่ค่อยสนิทกัน ก่อนที่พวกเราจะมาเรียนมัธยมโรงเรียนเดียวกัน เรียนห้องเดียวกัน เจอหน้ากันทุกวัน ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด พวกเราเลยได้มีโอกาสคุยกันมากขึ้น ทำให้พวกเราสนิทกันมาก เขาเป็นเพื่อนที่ผมประทับใจมากที่สุด เพราะเขาเป็นเพื่อนที่สามารถปรึกษาเรื่องต่างๆได้ เวลามีปัญหาหรือเรื่องที่ไม่สบายใจ เขาก็จะคอยให้คำปรึกษาและคอยพูดให้กำลังใจผมอยู่เสมอ เขาอาจจะไม่ใช่เพื่อนที่หน้าตาดีที่สุด หรือเก่งที่สุด แต่เขาเป็นเพื่อนที่จิตใจดีที่สุด เป็นคนจริงใจทั้งต่อหน้าและลับหลัง เขาสามารถสอนวิชาที่ผมไม่ถนัดได้ และผมเองก็สามารถสอนเขาในวิชาที่เขาไม่ถนัดได้ พวกเราคอยช่วยเหลือกันในยามที่ต่างคนต่างมีปัญหาหรือไม่สบายใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียนหรือเรื่องส่วนตัว เขาไม่เหมือนกับเพื่อนคนอื่นที่ผมรู้จักเพราะเขาเป็นเพื่อนทีรู้ใจผมมากที่สุด ถึงแม้จะมีบางครั้ง ที่พวกเราผิดใจกัน เพียงเพราะความเข้าใจผิดกันเล็กๆน้อยๆ แต่สุดท้าย ความเป็นเพื่อนก็ไม่อาจตัดขาดได้ และสิ่งที่ผมประทับมากที่สุดในตัวเพื่อนคนนี้ก็คือ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผมไม่สบาย เป็นไข้เลือดออก ผมรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ทำให้ต้องลาเรียนประมาณ 1 อาทิตย์ พวกเราเลยไม่ได้เจอกัน เขาก็เป็นห่วงผม โทรถามอาการผมอยู่ทุกวัน ว่าวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง ดีขึ้นไหม หายเร็วๆนะ กลับมาเรียนได้แล้ว ทำให้ผมรู้สึกสบายใจและรู้สึกดีขึ้น จนวันที่ผมออกจากโรงพยาบาลมาพักฟื้นที่บ้าน เมื่อเขารู้ว่าผมกลับจากโรงพยาบาลแล้ว เขารีบมาเยี่ยมผมที่บ้านทันทีหลังจากเลิกเรียน พร้อมกับถือขนมเค้กมาด้วยกล่องหนึ่ง ซึ่งเขาเดินมาจากบ้านคนเดียวเพื่อมาเยี่ยมผม ทำให้ผมรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของเขา รู้สึกดีมากๆที่มีเพื่อนที่จริงใจแบบเขา และรู้สึกประทับใจในตัวเพื่อนคนนี้มาก  จากวันนั้นที่พวกเราเป็นแค่คนรู้จัก ผ่านพ้นวันเวลา ผ่านพ้นอุปสรรค ผ่านพ้นรอยยิ้ม ผ่านปัญหาร่วมกันเรื่อยมา จนถึงวันที่เรากลายเป็นเพื่อนสนิท กลายเป็นคนที่เราสามารถเรียกเขาได้ว่าเป็น "เพื่อนแท้"  สิ่งต่างๆเหล่านี้ ทำให้เราได้รู้ว่า เราไม่ได้อยู่บนโลกนี้เพียงคนเดียว ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ เรารู้ว่าเรามีเพื่อนแท้ คอยเป็นกำลังใจให้ ไม่จำเป็นว่าจะต้องคุยกันทุกวัน ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา เพื่อนแท้ก็สามรถเป็นเพื่อนแท้ เป็นเพื่อนกันตลอดไปได้ ทำให้ไม่กลัวกับความทุกข์ แต่กลับรู้สึกอบอุ่นใจ เพระรู้ว่าเรายังมีเพื่อนอยู่เคียงข้างเสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เพื่อนแท้ ย่อมเป็นคนที่อยู่เคียงข้างเราเสมอ คนเราไม่สามารถยืนเพียงลำพังได้ ทุกคนต้องการได้รับความผูกพัน ความรัก ความเข้าใจ อย่างจริงใจต้องการมีคนที่มาร่วมทุกข์ ร่วมสุขไปด้วยกัน ซึ่งคนที่สามารถมอบสิ่งเหล่านั้นให้ได้นอกจากครอบครัวแล้ว นั่นก็คือ  "เพื่อนสนิท" นั่นเอง                                                                                                                                                                    โดย เด็กชายอิกมาลย์  อาบู  
1 เมษายน 2568
ครั้งหนึ่งในช่วงเวลาวัยรุ่นที่พวกเราทุกคนต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในโรงเรียน และไม่ใช่ทุกคนที่จะมีความสุขกับช่วงเวลาเหล่านั้น หนูเป็นคนหนึ่งที่เคยคิดว่าการไปโรงเรียนค่อนข้างน่าเบื่อไม่น้อย แต่กลับกันเมื่อหนูได้เจอสังคมอาจารย์ในโรงเรียนที่เป็นมิตรและเป็นกันเองกับนักเรียน สามารถเป็นเพื่อนสนิทกับนักเรียนได้อย่างไม่ถือตน หนูได้พบกับอาจารย์ที่มีความชอบตรงกัน คุยภาษาเดียวกันและมีความคิดทัศนคติบางอย่างที่ทำให้เราสองคนได้มีโอกาสคุยกันและแลกเปลี่ยนอะไรมากมาย หนูชอบใช้เวลาว่างที่หนูมีนั่งคุยกับอาจารย์คนนี้ ชอบที่จะแลกเปลี่ยนความคิดในมุมมองต่างๆของเราสองคนด้วยกัน มีความสุขเวลาได้เจอกันทุกครั้ง ซึ่งไม่เคยมีครั้งไหนที่รู้สึกว่าอาจารย์คนนี้ทำให้เราไม่ชอบการมาเรียน เป็นทั้งอาจารย์ที่เคารพและเพื่อนต่างวัยในโรงเรียน เหตุการณ์ที่ประทับใจมีมากมายจนเอ่อล้นหัวใจดวงน้อย ๆ ของหนูเลยค่ะ อย่างเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่หนูประสบปัญหาและเลือกที่จะเข้าหาและปรึกษากับอาจารย์คนนี้ มันเป็นความปลื้มปริ่มที่ไม่ถูกมองว่าเป็นปัญหาของนักเรียนจนถึงขั้นนำเรื่องที่เราเจอปัญหามาไปคุยหรือไปเสวนากันต่อในทีมอาจารย์ แต่กลับกันทุกเรื่องราวที่เล่าและคำถามที่เอ่ยออกไป มันสิ้นสุดในบทสนทนาของเราสองคน นี้ก็เป็นแค่เรื่องมดกัดที่เป็นความตื้นตันใจในช่วงเวลาที่เราว้าเหว่ แต่กลับเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เรายกให้เขาเป็นอาจารย์ในดวงใจของหนูเสมอมา ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้รู้จักกับอาจารย์จนถึงช่วงปัจจุบัน หนูได้แง่คิดในการเรียน การวางตัว รวมไปถึงมุมมองต่อสิ่งรอบข้าง เป็นแรงบันดาลใจเล็ก ๆ ที่หนูได้ตกตะกอนจากครูในดวงใจของหนู     โดย นางสาวดาเนียล  หะวันตระกูล    
25 มีนาคม 2568
เพื่อน คือสิ่งที่หาได้ง่าย แต่เพื่อนที่หาได้ยากนั่นคือเพื่อนแท้ ที่ยังคงเป็นที่พักพิง และเป็นความสุขของเราได้ตลอด ไม่ว่าจะสุขหรือเศร้า เพื่อนแท้ก็จะคอยอยู่เคียงข้างเราเสมอ        นิยามคำว่าเพื่อนในมุมมองของผมก็เปรียบเสมือน น้ำ ถึงไม่มีรสชาติแต่ก็ขาดมันไม่ได้ ผมเคยมีเพื่อนแท้อยู่คนหนึ่ง พวกเราตัวติดกันมาก คล้าย ๆกับปาท่องโก๋เลยก็ว่าได้ พวกเราคอยช่วยเหลือและเป็นความสุขของกันและกัน บางครั้งพวกเราอาจจะมีทะเลาะกันบ้าง แต่ก็ไม่ได้บ่อย เวลาที่คุณครูได้มอบหมายงานให้ผมซึ่งบางครั้งผมไม่เข้าใจก็จะมีเพื่อนคนนี้ที่คอยชี้แนะผมอยู่บ่อย ๆ จนตอนนี้ตัวผมเองก็ได้พัฒนาความสามารถของตัวเองในระดับหนึ่งแล้ว        เพื่อนผมคนนี้เป็นคนที่เรียนเก่งมาก และเรียบร้อย ซึ่งต่างจากตัวผมโดยสิ้นเชิง เขาชอบช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่เคยหวังผลตอบแทนกลับมาเลย ผมรู้สึกประทับใจในตัวเขามาก ซึ่งยังมีลักษณะนิสัยอื่น ๆ ของเขาที่ผมรู้สึกภูมิใจและรู้สึกโชคดี มากที่มีเขาเป็นเพื่อนคนหนึ่งในชีวิต จนได้มาถึงช่วงเวลาที่ผมกำลังศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พวกเราได้สัญญากันไว้ว่า หลังจากจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แล้ว เราจะไปศึกษาต่อในชั้นมัธยมศึกษาด้วยกัน ผมดีใจมากที่เขาพูดออกมาแบบนั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไปผมได้ถามเขาอีกครั้งว่าเราจะเรียนด้วยกันอยู่ใช่ไหม เขาก็ยังคงยืนยันคำเดิมว่า ใช่ จงมาถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เขาก็ได้หนีผมไปโดยการลาออกจากโรงเรียนไปแบบเงียบ ๆ ตอนนั้นผมรู้สึกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ผมคงต้องยอมรับการตัดสินใจของเขา        จนมาถึงปัจจุบัน ผมยังคงคาใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้นว่า ทำไมเขาถึงต้องลาออก ผมมีเรื่องมากมายที่อยากคุยกับเขา อยากเล่าให้เขาฟัง อยากถามเขาว่า ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง สบายดีไหม มีความสุขดีใช่ไหม ไหนเราสัญญากันว่าจะเรียนต่อด้วยกัน ทำไมถึงหนีไปก่อน แต่ผมมาคิดแล้ว ถ้าเขามีความสุข ผมก็สบายใจแล้ว ส่วนเรื่องที่ผ่านมาในอดีตเราก็ขอโทษ และขอบคุณมาก ๆ ผมอยากบอกเขาว่า ไม่ต้องเป็นห่วงนะ แค่นี้สบายมาก และผมจะไม่มีวันลืมว่าครั้งหนึ่งผมเคยมีเพื่อนที่ดีที่สุดคนนี้ในชีวิตของผม     โดย  เด็กชายอากิฟ มะมิง  
24 มีนาคม 2568
เพื่อน เริ่มต้นได้จากหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนที่เจอกันในโรงเรียน เพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เพื่อนที่ชวนกันไปไหนมาไหนด้วยกัน คอยช่วยเหลือกัน ถึงจะรู้จักกันเพียงแค่ชื่อ แต่มันก็มีไม่กี่คนที่เรียกได้เต็มปากว่า เขาเป็นเพื่อนแท้        หนูยังจำความทรงจำในวัยเด็กได้เป็นอย่างดี ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่หนูยังเรียนอยู่ชั้นอนุบาล หนูมีเพื่อนที่เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนสนิทของหนูคนหนึ่ง เวลาคุณครูให้ทำกิจกรรมหรือเวลาพักเที่ยงหนูมักจะตัวติดกันกับเพื่อนคนนี้เสมอ หนูหวงเพื่อนคนนี้มาก ๆ หนูจะไม่ค่อยชอบเวลาที่เห็นเพื่อนสนิทตัวเองไปเล่นกับเพื่อนคนอื่นเพราะความรู้สึกเหมือนกำลังจะถูกแย่งเพื่อนสนิทไป ตลอดระยะเวลาที่หนูไปรู้จักกับเพื่อนคนนี้ หนูรู้สึกว่าตัวเองมีความสุข และโชคดีมาก หนูเรียนกับเพื่อนคนนี้ไปจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เราก็สนิทกันมากขึ้น ไปกินข้าวด้วยกัน โดดเรียนด้วยกัน ซึ่งอันที่จริงมันไม่ดีหรอก แต่ด้วยความที่ยังเด็ก จนกระทั่งเราสองคนก็เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ต่างคนก็ได้ต่างแยกย้ายไปเรียนต่อในระดับมัธยมศึกษาที่ต่างตนก็ต่างเลือกโรงเรียนที่อยากเรียน หลังจากนั้นเราสองคนก็ไม่เคยได้ติดต่อหากันอีกเลย หนูพยายามหาเบอร์โทรศัพท์มือถือจากเพื่อนคนอื่น ๆ ก็ไม่มีใครรู้เลยว่าเพื่อนคนนี้อยู่ที่ไหน เป็นอย่างไรบ้าง สบายดีไหม จนวันหนึ่งหนูก็ได้รับรู้ข่าวสารจากเพื่อนคนหนึ่งว่า เพื่อนสนิทหนูคนนั้นเขาประสบอุบัติเหตุ ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเขาหายดีหรือยัง หนูก็พยายามตามหาจากโซเชียลมีเดียต่าง ๆ แต่ก็ล้มเหลวทุกครั้ง หนูเสียใจมาก ๆ ที่ก่อนหน้านี้หนูไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเพื่อนสนิทคนนี้ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงแค่ไหน แต่หนูอยากบอกว่า หนูคิดถึงเพื่อนคนนี้เสมอ แม้เวลาจะผ่านไป 10 กว่าปีแล้วก็ตาม แต่หนูยังคงหวังเสมอว่าสักวันเราคงจะได้เจอกันอีก        จนถึงตอนนี้หนูอยากจะบอกกับเขาว่า ไม่ว่าจะนานแค่ไหน หนูยังคงเป็นห่วง และหวังดีกับเพื่อนเสมอ หนูไม่รู้ว่าที่ผ่านมาเพื่อนต้องเจอกับอะไรมาบ้าง แต่ขอให้รู้ไว้ว่า ยังมีเพื่อนคนนี้อยู่ข้าง ๆ และเป็นกำลังใจให้เธอเสมอนะ     โดย เด็กหญิงนิซูฮัยลา คาเร็ง
8 มกราคม 2568
หากกล่าวถึงคำว่า "ครู" หลายคนคงนึกถึงคนที่ยืนหน้าชั้นเรียน คอยสอนหนังสือและให้ความรู้ในวิชาต่างๆให้กับเรา แต่สำหรับฉัน ครูไม่ใช่แค่คนที่ให้ความรู้ในตำราเรียน ครูคือคนที่ช่วยให้เราเข้าใจชีวิตในมุมมอง ที่กว้างขึ้น เป็นทั้งผู้สอน ผู้ให้คำแนะนำ และแรงบันดาลใจในหลายๆ อย่าง ครูจึงเป็นมากกว่าคำว่า "อาชีพ" ความเสียสละคือคุณลักษณะสำคัญของครู ครูต้องทุ่มเทเวลาและพลังงานในการเตรียมการสอน และ ดูแลนักเรียน เพื่อให้นักเรียนได้รับสิ่งที่ดีที่สุด ครูไม่ได้หวังผลตอบแทนเป็นเงินทองหรือคำชื่นชม แต่หวังเพียง ว่านักเรียนจะเติบโตเป็นคนที่มีคุณภาพและมีจุดยืนในโลกนี้ได้ในมุมมองของฉัน ครูไม่ได้หมายถึงแค่คนที่สอน วิชาการหรือทำหน้าที่ในโรงเรียนเท่านั้น แต่ครูคือคนที่สอนให้เราเข้าใจชีวิตและเรียนรู้สิ่งต่างๆ อย่างแท้จริง ครู บางคนอาจไม่มีเวลาพูดกับนักเรียนเท่าที่ควร แต่ทุกคำพูดนั้นมีค่าอย่างมากที่เรานำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวัน เช่น การที่ครูพูดว่า "อย่ากลัวที่จะผิดพลาด" คำๆนี้ทำให้ฉันกล้าที่จะลองสิ่งใหม่ๆ และเรียนรู้จากความล้มเหลว อีกหลายๆครั้ง สิ่งที่ฉันเรียนรู้จากครูไม่ได้จำกัดอยู่แค่เนื้อหาวิชาในตำรา แต่ยังรวมถึงบทเรียนชีวิตที่มีคุณค่า ครู หลายคนเล่าเรื่องส่วนตัวที่ผ่านอุปสรรคมามากมาย สิ่งเหล่านี้สอนให้เราเข้าใจว่าความสำเร็จไม่ได้มาอย่าง ง่ายดาย การล้มเหลวและการพยายามอีกครั้งคือสิ่งที่ทำให้เราก้าวหน้า ครูยังสอนให้เราเข้าใจถึงคุณค่าของการ ทำงานเป็นทีม การช่วยเหลือกัน และการรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น บทเรียนทั้งหมดนี้ช่วยให้เราเติบโตเป็น คนที่พร้อมรับมือกับโลกภายนอก ดังนั้นครูเป็นรากฐานที่สำคัญในการสร้างคนดีให้กับสังคม ทุกอาชีพที่สำคัญ ในโลกนี้เริ่มต้นจากห้องเรียน ครูเป็นผู้ให้ความรู้ที่ปลูกฝังจริยธรรมและคุณธรรม ครูบางคนไม่ได้สร้างเพียงคน เก่งในอาชีพ แต่ยังสร้างคนที่มีจิตสำนึกที่ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยผลักดันสังคมให้ก้าวหน้า ครูคือคนที่มีความสำคัญ ต่อชีวิตของเราอย่างมาก ไม่ใช่แค่ในเรื่องการเรียน แต่ยังรวมถึงการเติบโตในทุกด้าน ครูคือผู้ที่คอยชี้นำทางใน วันที่เราสับสน เป็นกำลังใจในวันที่เราท้อแท้ และเป็นแบบอย่างของความอดทนและความพยายาม แม้ว่าเราจะ ก้าวออกจากรั้วโรงเรียนไปแล้วแต่สิ่งที่ครูสอนก็ยังคงอยู่ในใจเรา ครูในแบบที่ฉันเห็นจึงเป็นผู้ที่สร้างแรงบันดาลใจและเป็นแรงผลักดันที่สำคัญในการเดินทางของ สำหรับฉันครูคือผู้ที่ควรได้รับคำขอบคุณจากใจจริง เพราะถ้าไม่มีครู เราคงไม่ใช่คนเก่งเหมือนทุกวันนี้ได้   โดย นางสาว นูรลัยลาฮ์ เจ๊ะมิง   
7 มกราคม 2568
“ความเป็นมิตร มิอาจคิดคุณค่าได้” ประโยคนี้อาจดูเป็นเพียงคำพูดธรรมดาสำหรับใครบางคน แต่สำหรับผม มันสะท้อนถึงคุณค่าทางจิตใจที่ไม่มีทรัพย์สินใดในโลกสามารถทดแทนได้ มิตรภาพไม่ใช่สิ่งที่ซื้อขายหรือสร้างขึ้นด้วยเงินทอง แต่มันเกิดจากการใช้เวลาอยู่ด้วยกัน การแบ่งปันทั้งความสุขและความทุกข์ และการยอมรับในตัวตนของกันและกันอย่างแท้จริง ผมเริ่มรู้จักเพื่อนกลุ่มหนึ่งเมื่อย้ายมาเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 วันแรกที่เดินเข้าห้องเรียน ผมยังเป็นเด็กใหม่ที่ไม่รู้จักใครเลย กลุ่มเพื่อนที่ผมได้เริ่มพูดคุยด้วยนั้น แม้จะดูไม่ใช่คนที่เข้าถึงง่ายในสายตาแรก เมื่อวันเวลาผ่านไป ความสนิทสนมค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้น พวกเขาไม่ได้เป็นเพียงเพื่อนธรรมดา แต่กลายเป็นเหมือนครอบครัวอีกครอบครัวหนึ่งของผม เราใช้ชีวิตในช่วงมัธยมปลายร่วมกันอย่างคุ้มค่า ทั้งการทำกิจกรรมโรงเรียน การอ่านหนังสือสอบ การพูดคุยเรื่องชีวิต การแอบหนีเรียน รวมถึงการเผชิญสุขและทุกข์ไปด้วยกัน ลองผิดลองถูกในสิ่งที่ไม่เคยทำความใกล้ชิดเหล่านี้ทำให้ผมได้เรียนรู้ว่า มิตรภาพที่แท้จริงไม่ได้ขึ้นอยู่กับรูปลักษณ์ภายนอก แต่มันอยู่ที่ความจริงใจและความปรารถนาดีที่มีต่อกัน มีเหตุการณ์หนึ่งที่ผมยังจำได้ดี วันนั้นผมรู้สึกเหนื่อยล้าและท้อแท้จากปัญหาส่วนตัวจนไม่อยากทำอะไรเลย แต่เพื่อนกลุ่มนี้กลับสังเกตเห็นความผิดปกติในตัวผม พวกเขาไม่ได้แค่ถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง อีกทั้งยังนั่งอยู่ข้าง ๆ คอยพูดคุยให้กำลังใจ หยอกล้อจนทำให้ผมยิ้มได้อีกครั้ง เหตุการณ์นั้นทำให้ผมตระหนักว่า ในวันที่ชีวิตย่ำแย่ที่สุด ผมยังมีเพื่อนเหล่านี้คอยอยู่เคียงข้างเสมอ ในอดีตผมไม่เคยเชื่อในคำว่า “เพื่อนกันจนวันตาย” เพราะมันดูเหมือนวลีที่พูดกันเล่น ๆ อย่างไรก็ตามเมื่อได้สัมผัสกับมิตรภาพนี้ ผมจึงเข้าใจความหมายของมันอย่างแท้จริง มันไม่ใช่เพียงคำพูดสวยหรู แต่ยังคงสะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง เมื่อเวลาผ่านไป ต่างคนต่างเดินไปตามเส้นทางชีวิตของตัวเอง อาจไม่ได้เจอกันบ่อยเหมือนเดิม ทว่าสิ่งที่ยังคงอยู่คือความทรงจำดี ๆ และความรู้สึกอบอุ่นที่เรามีให้กัน มิตรภาพสอนให้ผมเข้าใจว่า คุณค่าของความเป็นมิตรไม่อาจวัดได้ด้วยสิ่งของหรือสถานะทางสังคม แต่มันคือความผูกพันที่สร้างขึ้นจากความรัก ความเสียสละ ความซื่อสัตย์ และความจริงใจ ทุกวันนี้ผมพูดได้เต็มปากว่า มิตรภาพคือสมบัติล้ำค่าที่สุดในชีวิตของผม และมันทำให้ผมเชื่อมั่นว่า ไม่ว่าผมจะอยู่ที่ใด หรือเผชิญกับปัญหาอะไร ผมจะสามารถผ่านมันไปได้เสมอ ถ้าผมยังมีเพื่อนเหล่านี้อยู่เคียงข้าง ดังสุภาษิตที่ว่า “คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล” มิตรภาพที่แท้จริงคือสิ่งที่ช่วยให้ผมเติบโตและเดินไปในเส้นทางที่ดีของชีวิต ผมขอบคุณช่วงเวลาที่ได้ใช้ร่วมกับเพื่อน ๆ เหล่านี้ เพราะมันไม่เพียงสร้างความสุข แต่ยังหล่อหลอมให้ผมเป็นคนที่ดีกว่าเดิมอีกด้วย                       โดย นายศุภวัทน์ สัตย์จิตร      
7 มกราคม 2568
นิยามของคำว่า “เพื่อนที่ดีที่สุด” สำหรับใครหลาย ๆ คน มักจะให้ความหมายแตกต่างกันออกไป บางคนอาจจะบอกว่าเพื่อนที่ดีที่สุดคือคนที่สนิทที่สุด คนที่สามารถไว้ใจได้มากที่สุด คนที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างเสมอ ในทุกช่วงเวลาของชีวิต ทั้งช่วงเวลาที่มีความสุขและช่วงเวลาที่มีความทุกข์ เพื่อนคือคนที่คอยรับฟังทุกปัญหาที่พบเจอ ให้คำแนะนำหรือปลอบใจจนรู้สึกดี อีกทั้งสามารถเข้าใจความรู้สึกของอีกคนได้ดีมากกว่าคนอื่น ๆ  เพียงแค่นี้ก็สามารถเรียกคน ๆ นั้นว่า “เพื่อนที่ดีที่สุด” แล้วสำหรับดิฉัน คำว่า"เพื่อนที่ดีที่สุด" อาจไม่ได้หมายถึงการมีเพื่อนที่สมบูรณ์แบบในทุกๆ ด้าน เพราะบางครั้งชีวิตของคนเราก็ไม่ได้ง่ายดายเสมอไป ชีวิตไม่สามารถหาคนที่จริงใจกับเราได้ในทุกๆ สถานการณ์ หลายครั้งที่ดิฉันพบเจอเพื่อนที่เข้ามาในชีวิตในรูปแบบที่ไม่คาดคิด บางคนเข้ามาด้วยความจริงใจ แต่บางคนก็เข้ามาเพราะหวังผลประโยชน์ หรือแม้กระทั่งการพูดให้ร้ายใส่กันลับหลัง ซึ่งทำให้ดิฉันเริ่มสงสัยถึงนิยามคำว่า "เพื่อนที่ดีที่สุด" ว่าต้องเป็นแบบใด หรือเพื่อนที่ดีที่สุดนั้นอาจไม่จำเป็นต้องเป็นมนุษย์เสมอไปก็ได้ เมื่อชีวิตต้องเผชิญกับความเหนื่อยและความทุกข์ใจ  ดิฉันมักจะหาวิธีจัดการกับความรู้สึกเหล่านั้น ด้วยการหาที่เงียบสงบในการปลดปล่อยตัวเองออกจากทุกสิ่งที่ทำให้ดิฉันรู้สึกเสียใจหรือกังวลใจ ดิฉันค้นพบแล้วว่าสิ่งนี้คือ “เพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับดิฉัน” หนังสือคือ “เพื่อนที่ดีที่สุด” ไม่ว่าจะเป็นการนั่งอยู่ที่มุมโปรดในห้องสมุดหรือการพกหนังสือไปในที่ต่างๆ ดิฉันเลือกที่จะหยิบหนังสือเล่มโปรดขึ้นมาและเริ่มอ่านอย่างเงียบๆ  ในช่วงเวลานั้นมันเหมือนการสื่อสารกับตัวเองผ่านตัวอักษรที่อยู่ในหนังสือ ทุกคำที่ดิฉันอ่านเหมือนการพูดคุยกับตัวเอง ไม่ต้องการคำตอบกลับมาในทันที แต่มันให้ความรู้สึกของการมีเพื่อนที่เข้าใจอยู่ข้างๆ แม้หนังสือจะไม่สามารถให้คำตอบหรือปลอบโยนดิฉันได้เหมือนเพื่อนคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ และคอยกอดปลอบใจ แต่ทุกตัวอักษรที่ดิฉันอ่านกลับให้กำลังใจและคำแนะนำในวิธีที่อ่อนโยนและลึกซึ้ง หนังสือเล่มนั้นเปรียบเสมือนเพื่อนที่เงียบและมั่นคง แม้ไม่สามารถพูดอะไรออกมาเป็นคำพูดแต่กลับให้ความรู้สึกของการเข้าใจและให้ความสงบในจิตใจทุกครั้งที่ดิฉันเปิดมันขึ้นมา หนังสือทำให้ดิฉันรู้สึกว่า ไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนที่ดีที่สุดในแบบที่คนอื่นๆ อาจคาดหวัง บางทีเพื่อนที่ดีที่สุดอาจไม่ได้มาในรูปแบบของเพื่อนมนุษย์ แต่สามารถมาในรูปแบบของสิ่งของที่ให้ความรู้สึกปลอดภัยและสบายใจอย่างหนังสือเล่มโปรดของดิฉัน  เมื่อใดก็ตามที่ดิฉันเหนื่อยล้าหรือท้อแท้ การมีหนังสือดีๆ สักเล่ม ทำให้ดิฉันไม่รู้สึกว่า "เพื่อนที่ดีที่สุด" เป็นสิ่งที่ขาดหายไปในชีวิตดิฉัน  หนังสือให้ความอบอุ่นและมั่นคงในแบบที่เพื่อนมนุษย์บางคนอาจไม่สามารถให้ได้ หนังสือมีความซื่อสัตย์ จริงใจ ให้คำแนะนำที่เต็มไปด้วยความรักและความจริงใจเสมอมา ท้ายนี้ดิฉันขอทิ้งท้ายด้วยประโยคที่ดิฉันชื่นชอบและประทับใจมากที่สุดจาก  ชาร์ล วิลเลียม อีเลียต  อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่กล่าวว่า " หนังสือเป็นเพื่อนที่เงียบและมั่นคงมากที่สุด เป็นที่ปรึกษาที่เข้าถึงง่ายและรอบรู้ที่สุด"   โดย   นางสาวเกาว์ซัส  ทองคำ
7 มกราคม 2568
ไปที่หน้า